คำนามที่เปลี่ยนรูปไปเลย เมื่อทำเป็นคำนามพหูพจน์
คำนามเอกพจน์ที่เปลี่ยนรูปไปเลยเมื่อเป็นพหูพจน์ คือเขียนไม่เหมือนเดิม และไม่ได้ใช้วิธีการเติม s หรือ es นั่นเอง คำนามบางคำก็มีข้อยกเว้นของมัน คือ เมื่อเปลี่ยนจากคำนามเอกพจน์ไปเป็นคำนามพหูพจน์จะไม่ใช่แค่เติม […]
คำนามเอกพจน์ที่เปลี่ยนรูปไปเลยเมื่อเป็นพหูพจน์ คือเขียนไม่เหมือนเดิม และไม่ได้ใช้วิธีการเติม s หรือ es นั่นเอง
คำนามบางคำก็มีข้อยกเว้นของมัน คือ เมื่อเปลี่ยนจากคำนามเอกพจน์ไปเป็นคำนามพหูพจน์จะไม่ใช่แค่เติม s, es หรือตัดโน่นเติมนี่ แต่จะเปลี่ยนรูปไปเลยแบบไร้กฏเกณฑ์ ดังนั้น เราต้องใช้ความคุ้นเคยโดยการสังเกตและที่สำคัญการใช้บ่อยๆ เป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยให้ใช้ได้ชินและถูกต้อง
ตัวอย่างคำศัพท์ภาษาอังกฤษ คำที่พบบ่อยๆ ว่าจะเปลี่ยนรูป (สะกดใหม่ ไม่เหมือนเดิม) เมื่อทำเป็นคำนามพหูพจน์ จะมีดังต่อไปนี้
1. Man แปลว่า ผู้ชาย เป็นคำนามเอกพจน์
แต่ถ้าจะเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์จะต้องเปลี่ยนเป็น men แปลว่า ผู้ชายหลายคน
2. Woman แปลว่า ผู้หญิง เป็นคำนามเอกพจน์
แต่ถ้าจะเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์จะต้องเปลี่ยนเป็น women แปลว่า ผู้หญิงหลายคน
3. Policeman แปลว่า ตำรวจ เป็นคำนามเอกพจน์
แต่ถ้าจะเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์จะต้องเปลี่ยนเป็น policemen แปลว่า ตำรวจหลายคน
4. Child แปลว่า เด็ก เป็นคำนามเอกพจน์
แต่ถ้าจะเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์จะต้องเปลี่ยนเป็น children แปลว่า เด็กหลายคน
5. Goose แปลว่า ห่าน เป็นคำนามเอกพจน์
แต่ถ้าจะเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์จะต้องเปลี่ยนเป็น geese แปลว่า ห่านหลายตัว
6. Tooth แปลว่า ฟัน เป็นคำนามเอกพจน์
แต่ถ้าจะเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์จะต้องเปลี่ยนเป็น teeth แปลว่า ฟันหลายซี่
7. Mouse แปลว่า หนู เป็นคำนามเอกพจน์
แต่ถ้าจะเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์จะต้องเปลี่ยนเป็น mice แปลว่า หนูหลายตัว
8. Foot แปลว่า เท้า เป็นคำนามเอกพจน์
แต่ถ้าจะเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์จะต้องเปลี่ยนเป็น feet แปลว่า เท้าหลายเท้า