กริยา 3 ช่อง แบบปกติ และ แบบไม่ปกติ
กริยา 3 ช่อง การผันคำกริยาในภาษาอังกฤษ กริยา 3 ช่อง คือ หลักการเปลี่ยนคำกริยาช่องที่ 1 […]
กริยา 3 ช่อง การผันคำกริยาในภาษาอังกฤษ
กริยา 3 ช่อง คือ หลักการเปลี่ยนคำกริยาช่องที่ 1 (present) เป็นคำกริยาช่องที่ 2 (past) และคำกริยาช่องที่ 3 (past participle) โดยมีรายละเอียดกฎไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ และหลักในการทำ กริยา 3 ช่อง ดังที่จะเรียนในบทเรียนภาษาอังกฤษนี้
ในภาษาอังกฤษ สามารถแบ่งคำกริยาออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. กริยาธรรมดา (regular verb)
2. กริยาพิเศษ (irregular verb)
ความแตกต่างในการเปลี่ยนรูปสำหรับ กริยา 3 ช่อง ของคำกริยาทั้งสองแบบ คือ
1. กริยาธรรมดา (regular verb) หรือเรียกว่า กริยาปกติ
เป็นคำกริยาที่เปลี่ยนแปลงไปตามกฎเกณฑ์ คือ เติม -ed หรือ -d เมื่อทำเป็นคำกริยาช่องที่ 2 และคำกริยาช่องที่ 3 เช่น
Borrow แปลว่า ขอยืม เมื่อทำเป็น verb 2 และ verb 3 จะได้เป็น borrowed
Ask แปลว่า ถาม เมื่อทำเป็น verb 2 และ verb 3 จะได้เป็น asked
Like แปลว่า ชอบ เมื่อทำเป็น verb 2 และ verb 3 จะได้เป็น liked
อ่านเพิ่มเติม คลิก >> การเติม ed
2. กริยาพิเศษ (irregular verb) หรือเรียกว่า กริยาอปกติ
เป็นกริยาที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่เป็นไปตามกฎ (ไม่ใช้หลักการเติม -ed) เช่น
Do แปลว่า ทำ เมื่อทำเป็น verb 2 จะเป็น did เมื่อทำเป็น verb 3 จะเป็น done
Come แปลว่า มา เมื่อทำเป็น verb 2 จะเป็น came เมื่อทำเป็น verb 3 จะเป็น come (เขียนเหมือน v.1)
Read แปลว่า อ่าน เมื่อทำเป็น verb 2 และ verb 3 จะเป็น read (เขียนเหมือนกัน 3 ช่อง read-read-read แต่อ่านว่า รีด-เร้ด-เร้ด)