Nouns คำนาม ภาษาอังกฤษ ประเภทต่างๆ วิธีการใช้ นับได้ นับไม่ได้ เอกพจน์ พหูพจน์
Noun (คำนาม) คือคำที่ใช้เรียกสิ่งต่างๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หรือบางครั้งอาจรวมไปถึงสิ่งที่ไม่มีตัวตนและจับต้องไม่ได้ เช่น ความเชื่อ ความรัก ความกลัว เป็นต้น โดยคำนามแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ คำนามนับได้ และคำนามนับไม่ได้ เรามาเรียนรายละเอียดกันเลยครับ จะได้ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง และดูดีครับ
คำนามในภาษาอังกฤษ
1) Countable Noun
หมายถึง นามนับได้ คือนามที่สามารถแยกนับได้ว่ามีกี่คน กี่ตัว กี่สิ่ง เป็นจำนวน หนึ่ง สอง สาม … … แบ่งตามจำนวนได้ 2 ชนิดคือ
1.1) Singular (เอกพจน์) คือนามที่มีอันเดียว ชิ้นเดียว
1.2) Plural (พหูพจน์) คือนามที่มีมากกว่าหนึ่งขึ้นไป
ตัวอย่าง
Singular : boy bird book pencil
Plural : boys birds books pencils
การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์
ปกติเราสามารถทำให้คำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์ได้โดยการเติม s ที่ท้ายคำ แต่มีคำนามจำนวนหนึ่งที่มีข้อยกเว้น และมีกฎดังต่อไปนี้
กฎข้อที่ 1
เติม es ท้ายคำนามที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x
เช่น bus เปลี่ยนเป็น buses แปลว่า รถประจำทาง
glass เปลี่ยนเป็น glasses แปลว่า แก้ว
brush เปลี่ยนเป็น brushes แปลว่า แปรง
bench เปลี่ยนเป็น benches แปลว่า ม้านั่ง
match เปลี่ยนเป็น matches แปลว่า ไม้ขีดไฟ
box เปลี่ยนเป็น boxes แปลว่า กล่อง
fox เปลี่ยนเป็น foxes แปลว่า สุนัขจิ้งจอก
กฎข้อที่ 2
เติม es ท้ายคำนามที่ลงท้ายด้วย o และหน้า o เป็นพยัญชนะ
เช่น hero เปลี่ยนเป็น heroes แปลว่า วีรบุรุษ
mango เปลี่ยนเป็น mangoes แปลว่า มะม่วง
buffalo เปลี่ยนเป็น buffaloes แปลว่า ควาย
tomato เปลี่ยนเป็น tomatoes แปลว่า มะเขือเทศ
* ถ้าหากว่าหน้า o เป็นสระ ให้เติม s
radio เปลี่ยนเป็น radios แปลว่า วิทยุ
bamboo เปลี่ยนเป็น bamboos แปลว่า ไม้ไผ่
* เติม s สำหรับคำต่อไปนี้
photo เปลี่ยนเป็น photos แปลว่า รูปภาพ
piano เปลี่ยนเป็น pianos แปลว่า เปียโน
dynamo เปลี่ยนเป็น dynamos แปลว่า ไดนาโม
kilo เปลี่ยนเป็น kilos แปลว่า กิโล
กฎข้อที่ 3
คำนามที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es
เช่น fly เปลี่ยนเป็น flies แปลว่า แมลงวัน
city เปลี่ยนเป็น cities แปลว่า เมือง
army เปลี่ยนเป็น armies แปลว่า กองทัพบก
duty เปลี่ยนเป็น duties แปลว่า หน้าที่
lady เปลี่ยนเป็น ladies แปลว่า สุภาพสตรี
* ถ้าหากว่าหน้า y เป็นสระ ให้เติม s
day เปลี่ยนเป็น days แปลว่า วัน
boy เปลี่ยนเป็น boys แปลว่า เด็กผู้ชาย
toy เปลี่ยนเป็น toys แปลว่า ของเล่น
key เปลี่ยนเป็น keys แปลว่า กุญแจ
กฎข้อที่ 4
นามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น v แล้วเติม es
เช่น thief เปลี่ยนเป็น thieves แปลว่า ขโมย
leaf เปลี่ยนเป็น leaves แปลว่า ใบไม้
knife เปลี่ยนเป็น knives แปลว่า มีด
wife เปลี่ยนเป็น wives แปลว่า ภรรยา
* เติม s สำหรับคำต่อไปนี้
chief เปลี่ยนเป็น chief s แปลว่า หัวหน้า
turf เปลี่ยนเป็น turfs แปลว่า สนามหญ้า
roof เปลี่ยนเป็น roofs แปลว่า หลังคา
cliff เปลี่ยนเป็น cliffs แปลว่า หน้าผา
safe เปลี่ยนเป็น safes แปลว่า ตู้เซฟ
fife เปลี่ยนเป็น fifes แปลว่า ขลุ่ย
กฎข้อที่ 5
นามที่ทำให้เป็นพหูพจน์ โดยการเปลี่ยนแปลงสระภายใน
เช่น man เปลี่ยนเป็น men แปลว่า ผู้ชาย
woman เปลี่ยนเป็น women แปลว่า ผู้หญิง
foot เปลี่ยนเป็น feet แปลว่า เท้า
tooth เปลี่ยนเป็น teeth แปลว่า ฟัน
goose เปลี่ยนเป็น geese แปลว่า ห่าน
louse เปลี่ยนเป็น lice แปลว่า เหา, หมัด
mouse เปลี่ยนเป็น mice แปลว่า หนู
กฎข้อที่ 6
นามที่ทำให้เป็นพหูพจน์ โดยการเติม en หรือ ren
เช่น ox แปลว่า วัวตัวผู้ เปลี่ยนเป็น oxen
child แปลว่า เด็ก เปลี่ยนเป็น children
กฎข้อที่ 7
คำนามที่มีรูปเหมือนกัน ทั้งเอกพจน์ และพหูพจน์
เช่น fish พหูพจน์คือ fish แปลว่า ปลา
sheep พหูพจน์คือ sheep แปลว่า แกะ
deer พหูพจน์คือ deer แปลว่า กวาง
salmon พหูพจน์คือ salmon แปลว่า ปลาแซลมอน
กฎข้อที่ 8
คำนามที่มีรูปเป็นเอกพจน์ แต่มีความหมายเป็นพหูพจน์
เช่น cattle แปลว่า วัวควาย, ปศุสัตว์
poultry แปลว่า สัตว์ปีกที่เลี้ยงไว้เอาเนื้อหรือไข่ (เป็ดไก่)
people แปลว่า ประชาชน
กฎข้อที่ 9
คำนามที่มีรูปเป็นพหูพจน์เสมอ ไม่มีรูปเอกพจน์
เช่น shorts แปลว่า กางเกงขาสั้น
trousers แปลว่า กางเกงขายาว
tongs แปลว่า คีมหนีบ, เหล็กหนีบ, ปากคีบ
pants แปลว่า กางเกงขายาว, กางเกงใน
scissors แปลว่า กรรไกร
กฎข้อที่ 10
คำนามที่มีรูปเป็นพหูพจน์ แต่มีความหมายเป็นเอกพจน์
เช่น politics แปลว่า การเมือง
news แปลว่า ข่าว
ความรู้เพิ่มเติม
กฎข้อที่ 11
คำนามผสม ทำให้เป็นพหูพจน์ที่คำนามหลัก หรือ ทำทั้ง 2 ส่วน
เช่น father-in-law เปลี่ยนเป็น fathers-in-law
lord-justice เปลี่ยนเป็น lords-justices
2) Uncountable Noun
หมายถึง นามนับไม่ได้ คือนามที่ไม่สามารถแยกนับได้ว่ามีกี่คน กี่ตัว กี่สิ่ง หรือไม่นิยมนับ ดังนี้
2.1) เป็นผง, เป็นของเหลว, เป็นเม็ด หรือเป็นเส้นเล็กๆ เช่น
sand = ทราย | rice = ข้าว
hair = ผม | flour = แป้ง
sugar = น้ำตาล | ink = หมึก
2.2) คงสภาพเดิม แม้ว่าจะถูกตัดหรือแบ่ง เช่น
meat = เนื้อ | coffee = กาแฟ
bread = ขนมปัง | soap = สบู่
เรื่องที่ควรอ่านต่อ คลิก >> ภาษาอังกฤษพื้นฐาน เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ต้องอ่าน!