Determiners คือ คำนำหน้านาม เมื่อไหร่ไม่ใช้ หรือต้องใช้ เลือกใช้ตัวไหน

Noun Determiners หมายถึง กลุ่มคำที่วางไว้หน้าคำนามเพื่อบอกปริมาณ จำนวน และความหมายในลักษณะต่างๆ แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง เรียนจากบทความสอนหน้านี้ได้เลยครับ

Noun Determiners ในภาษาอังกฤษ

1. Articles  หมายถึง คำที่อยู่หน้าคำนามเพื่อบอกจำนวน ปริมาณและความหมาย  ได้แก่ a , an , the

ต้องใช้ a หรือ an เลือกอย่างไร

a ใช้นำหน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ [ที่ไม่ใช่เสียง “อ”] เช่น
cow (าว) แม่วัว = a cow
uniform (ยู‘นิฟอร์ม) เครื่องแบบ = a uniform

an ใช้นำหน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ [เสียง “อ”] เช่น
owl (เาลฺ) นกฮูก = an owl
hour (เา’เออะ) ชั่วโมง = an hour

กฎการใช้  a, an

1. ใช้นำหน้าคำนามนับได้รูปเอกพจน์  ซึ่งแปลว่า หนึ่ง หรือต่อหน่วย
เช่น a day = หนึ่งวัน หรือ ต่อวัน

2. ใช้นำหน้าคำนามนับได้รูปเอกพจน์ที่หมายถึงสิ่งนั้นๆ ทั้งหมด

3. ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่อยู่หลังคำ such , what  เพื่อเน้นให้เห็นคุณภาพหรือใช้ในประโยคอุทาน
such, what + a (an) + sing. countable noun
What a nice day it is!
Tukky is such a beautiful girl.

หรือใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่อยู่หลังคำ adjective ที่มีคำ how
how + adj + a(an) +  sing. countable noun
How nice a day it is!

4. อยู่ระหว่าง quite , rather กับ adjective  เช่น
quite(rather) + a(an) + adj.
She’s quite a beautiful woman.
She’s rather a serious person.

5. ใช้  a นำหน้าคำที่บอกจำนวน  เมื่อ a ไม่แปลว่า หนึ่ง

a few, a little, a great deal of, a large number of, a lot of เช่น

Mary has a few shirts.

หลักการใช้ the ในภาษาอังกฤษ

1. ใช้นำหน้าคำนามนับได้เป็นเอกพจน์  เมื่อกล่าวถึงคำนามนั้นอีก  หรือครั้งต่อๆ ไป

2. ใช้นำหน้าคำนามนับไม่ได้ และคำนามนับได้ทั้งเอกพจน์ และพหูพจน์  ที่ชี้เฉพาะ คือ มี adjective phrase หรือ adjective clause ตามหลัง
The milk in this shop is delicious.

3. ใช้นำหน้าคำนามที่เข้าใจกันดีระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง
John is going to the park.

4. ใช้นำหน้าคำนามที่มีสิ่งเดียว
the world, the sea, the ocean, the sky

5. ใช้นำหน้าชื่อสถานที่ต่าง ๆ   เช่น ทะเล  ภูเขา  ธนาคาร โรงแรม
the Nile, the Sahara Desert

6. ใช้นำหน้าชื่อประเทศที่เป็นพหูพจน์ ชื่อที่ประกอบด้วยคำว่า
kingdom , union , republic of
the United States of America,  the United Kingdom

7. ใช้นำหน้าคำนามที่บอกเหตุการณ์หรือสมัยทางประวัติศาสตร์  พรรคการเมือง สถาบัน องค์การ มูลนิธิ ตำแหน่งที่เป็นทางการ สื่อมวลชน เป็นต้น
the United Nation, the President, the Conservative Party

8. ใช้นำหน้าชื่อที่เป็นพหูพจน์ และมีความหมายว่าครอบครัว
the Kennedys, the Vatanawoods

9. ใช้นำหน้าคำนามเกี่ยวกับเวลาและสถานที่
the morning, the past, the beginning, the present

10. ใช้นำหน้า superlative degree
John is the eldest child in this family.

11. ใช้นำหน้า comparative degree
The more he eats, the fatter he gets.

12. ใช้นำหน้าคำต่อไปนี้  the former , the latter , the rest ,
the same

13. ใช้นำหน้า adjectives ที่บอกลำดับที่ the first, the
second,the third

14. ใช้นำหน้าสำนวนที่เป็นหน่วยของการวัด ชั่ง ตวง
the dozen, the kilo

กรณีที่ไม่ใช้ Article ก็คือ

1.  หน้าคำนามที่นับไม่ได้ และคำนามนับได้พหูพจน์
โดยทั่วไปไม่ชี้เฉพาะ
Gorge drinks milk everyday.
Cows eat grass.

2.    หน้ามื้ออาหารเมื่อกล่าวทั่วไปโดยไม่เฉพาะเจาะจง
แต่ถ้าชี้เฉพาะจะต้องใช้ the
We have lunch at twelve o’clock.
The lunch that we had at Pun Pun was delicious.

3.   หน้า วิชา กีฬา วันหยุดราชการ และ เทศกาล
Biology is his favorite subject.
John likes to play tennis.

4.   หน้าชื่อ ทวีป ประเทศ มลรัฐ  เมือง ถนน มหาวิทยาลัย
วิทยาลัย และ โรงเรียน
Bangkok is in Thailand.
Sombat studies at Chulalongkorn University.

การใช้ that, this, those, these

this, that  ใช้ประกอบนามเอกพจน์
I like this car.  She likes that car.

those, these  ใช้ประกอบนามพหูพจน์
These flowers are red.   Those flowers are yellow.

Quantifiers  ใช้ประกอบนามนับได้ เอกพจน์  พหูพจน์ และนามนับไม่ได้  เพื่อแสดงจำนวนของนามนั้นแบ่งได้
เป็น 4 กลุ่มด้วยกันคือ

1.  ประกอบนามนับได้เอกพจน์  ได้แก่   each, every,
either, neither

2.  ประกอบนามนับได้พหูพจน์  ได้แก่  many, several, a few,
few, a number of , a large number of, a great number of

3.  ประกอบนามนับไม่ได้  ได้แก่  much, a little, little, less,
a great deal of

4.  ประกอบนามนับได้และนับไม่ได้  ได้แก่  some, any, a
lot of,  lots of, plenty of, more, most, all

ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
tense
คำคมภาษาอังกฤษ

แชร์ไว้อ่าน