การใช้ Adverbs กริยาวิเศษณ์ ภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร วิธีใช้ขยายคำ
Adverbs หมายถึง คำที่ทำหน้าที่ขยายกริยา คำคุณศัพท์ กริยาวิเศษณ์ แบ่งออกเป็น 7 ชนิด คือ 1.Adverb […]
Adverbs หมายถึง คำที่ทำหน้าที่ขยายกริยา คำคุณศัพท์ กริยาวิเศษณ์ แบ่งออกเป็น 7 ชนิด คือ
1.Adverb of manner 2.Adverb of place 3.Adverb of time 4.Adverb of frequency 5.Adverb of degree 6.Interrogative Adverbs 7.Relative Adverbs แต่ละแบบเป็นอย่างไร ใช้อย่างไร เรียนได้ที่บทความสอนภาษาอังกฤษหน้านี้ครับ
1. Adverb of manner คือคำกริยาวิเศษณ์ที่บอกคุณลักษณะ เช่น
fast , well , hard etc.
2. Adverb of place คือคำกริยาวิเศษณ์ที่บอกสถานที่ เช่น
there , here , up , down etc.
3. Adverb of time คือคำกริยาวิเศษณ์ที่บอกเวลา เช่น
now , today , soon etc.
4. Adverb of frequency คือคำกริยาวิเศษณ์ที่บอกความถี่ เช่น
often , always , usually etc.
5. Adverb of degree คือคำกริยาวิเศษณ์ที่บอกระดับ เช่น
rather , too , very etc.
6. Interrogative Adverbs คือคำกริยาวิเศษณ์ที่เป็นคำถาม เช่น
where , when , why etc.
7. Relative Adverbs คือกริยาวิเศษณ์ที่เป็นคำเชื่อม เช่น
when , where , why etc.
การเปรียบเทียบ Adverb กริยาวิเศษณ์
มี 3 ขั้น ดังนี้
1. Positive Degree เป็นการเปรียบเทียบขั้นธรรมดา
– เปรียบเทียบความเท่ากัน ใช้ as + adv + as
– เปรียบเทียบความไม่เท่ากัน ใช้ not + so(as) + adv + as
– เปรียบเทียบขั้นธรรมดาใช้ very ขยายหน้า adverb
หลักการเปลี่ยน Adverb เป็นขั้นกว่าและขั้นสูงสุด มีดังนี้
1. ถ้ามีพยางค์เดียวเติม er เมื่อเป็นขั้นกว่า และเติม est เมื่อเป็นขั้นสูงสุด
2. ถ้ามี 2 พยางค์ขึ้นไปเติม more หน้า adverb เมื่อเป็นขั้นกว่า และเติม most หน้า adverb เมื่อเป็นขั้นสุด
3. adverb บางตัวเปลี่ยนรูปเมื่อเป็นขั้นกว่าและขั้นสุด
2. Comparative Degree เป็นการเปรียบเทียบขั้นกว่า
– เป็นการเปรียบเทียบเฉพาะ 2 สิ่ง ต้องมี than ตามหลังเสมอ
– เป็นการเปรียบเทียบขั้นกว่า ใช้ much ขยายหน้า adverb ขั้นกว่า
– ใช้ the นำหน้าขั้นกว่าเมื่อมีคำว่า of the two เสมอ
– ใช้ the หน้า Adverb ขั้นกว่า และมีความหมายว่า by so much
(ยิ่ง…เท่าไร…ยิ่ง….เท่านั้น)
3. Superlative Degree เป็นการเปรียบเทียบขั้นสุดตั้งแต่ 3 ขึ้นไป มักจะใช้ the นำหน้า
Adverb clauses
Adverb clauses คืออนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือน Adverb แบ่งได้ดังนี้
1. Adverb Clause of Time คืออนุประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยา เพื่อบอกให้ทราบการกระทำนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เช่น
when ,while , since , as soon as , as long as , before , after , until
2. Adverb Clause of Place คืออนุประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาเพื่อบอกให้ทราบว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นที่ไหน เช่น
where , as far as , wherever
3.Adverb Clause of Cause คืออนุประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยา เพื่อบอกให้ทราบการกระทำนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร เช่น
because , since , as
4.Adverb Clause of Purpose คืออนุประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยา เพื่อบอกให้ทราบการกระทำนั่นเกิดขึ้นด้วยความมุ่งหมายอะไร เช่น that , so that , in order that , lest , for fear that
5. Adverb Clause of Result คืออนุประโยคที่บอกผลที่เกิดจากการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่
so + adj or adv + that
such + noun(s) + that
6. Adverb Clause of Condition คืออนุประโยคที่บอกให้ทราบว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นด้วยเงื่อนไขอะไร เช่น if , if only , unless , as long as , so long as
7.Adverb Clause of Concession คืออนุประโยคที่แสดงการยอมรับอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น though , although , even though , however , whatever
8. Adverb Clause of Manner คืออนุประโยคที่ทำหน้าที่ขยายกริยาเพื่อบอกอาการของการกระทำว่ากระทำไปอย่างไร เช่น
as , as if , as though
9.Adverb Clause of Comparison คืออนุประโยคที่ใช้ในการเปรียบเทียบ ปกติจะอยู่หลัง as หรือ than
– ประโยคบอกเล่า as + adj หรือ (adv) + as
– ประโยคปฏิเสธ not so(as) + adj หรือ (adv) + as