สรุป If-Clause โครงสร้างแต่ละ type พร้อมตัวอย่างประโยค

If-Clause (Conditional Sentences)

If-Clause (Conditional Sentences)

If-Clause คืออะไร

If-Clause หรือประโยคเงื่อนไข (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Conditional Sentences) คือ การใช้ประโยคบอกความเป็นจริง การคาดเดา หรือเหตุการณ์สมมติ 2 เหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลกัน

ประโยคเงื่อนไขมีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ

1. If-Clause คือ ส่วนที่มี “If” ขึ้นต้นประโยค เป็นสาเหตุของเหตุการณ์ มีโครงสร้าง คือ If + S+ V
2. Main Clause คือ ประโยคใจความหลัก หรือผลจาก “If-Clause” มีโครงสร้างเหมือนประโยคทั่วไป คือ S + V

ทั้ง 2 ส่วนสามารถสลับตำแหน่งกันได้ ดังนี้

1. ถ้า “If-Clause” อยู่ด้านหน้า ต้องมี comma (,) คั่นกลาง
2. ถ้า “If-Clause” อยู่ด้านหลัง ไม่ต้องมี comma (,) คั่นกลาง

คำแสดงเงื่อนไขอื่น ๆ

นอกจากคำว่า “If” แล้ว มีคำอื่นที่สามารถใช้แสดงเงื่อนไขได้อีก ดังนี้

* unless มีความหมายเหมือนกับ “if … not” แปลว่า “ถ้า … ไม่” หรือ “นอกเสียจากว่า”

* in case / on condition that มีความหมายว่า “เผื่อว่า” หรือ “ภายใต้เงื่อนไขว่า”

* provided / providing (that) มีความหมายว่า “ถ้า” หรือ “ในกรณีที่”

* suppose / supposing (that)

If-Clause มีกี่แบบ อะไรบ้าง

ประเภทของประโยคเงื่อนไข If-Clause หรือ Conditional Sentences มี 4 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้

  1. Zero Condition หรือ If Clause type 0
  2. First Condition หรือ If Clause type 1
  3. Second Condition หรือ If Clause type 2
  4. Third Condition หรือ If Clause type 3

Zero Condition หรือ If Clause type 0

ประโยค If Clause type 0 หรือ ประโยคเงื่อนไขแบบ Present Real Conditional คือ If Clause ใช้พูดถึงข้อเท็จจริงทั่วไป เช่น ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ หรือสิ่งที่เราทำเป็นปกติ นอกจากนี้ ประโยคเงื่อนไขประเภทนี้ยังสามารถใช้ในประโยคคำสั่งได้อีกด้วย มีโครงสร้าง คือ

โครงสร้าง if clause type 0

  • If + present simple, present simple
    • ซึ่งก็คือ If (หรือบางกรณีใช้ When) + subject + v.1, subject + v.1

บริบทสำหรับ If-Clause Type 0 มีดังนี้

  • เรื่องที่เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์ เช่น โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
  • เป็นความจริงทั่วไป เช่น ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงกับเหลืองในฤดูใบไม้ร่วง
  • ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเวลาไหน ก็จะเป็นความจริงเช่นนั้นเสมอ เช่น โลกมีแรงโน้มถ่วง ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต

ตัวอย่างประโยค if clause type 0

  • If you heat ice, it melts. (ถ้าคุณให้ความร้อนกับน้ำแข็ง มันก็ละลาย)
  • If you mix blue and yellow, you get green. (ถ้าคุณผสมสีน้ำเงินและสีเหลือง คุณก็ได้สีเขียว)
  • If it rains, the ground becomes wet. (ถ้าฝนตก พื้นก็เปียก)
  • If you heat water to 100 degrees Celsius, it boils. (หากคุณทำให้น้ำร้อนถึง 100 องศาเซลเซียส น้ำก็เดือด)
  • If the sun sets, it gets dark. (หากพระอาทิตย์ตกดิน มันก็มืด)

First Condition หรือ If Clause type 1

ประโยค If Clause type 1 หรือ ประโยคเงื่อนไขแบบ Present Unreal Conditional คือ If Clause ที่ ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่มีโอกาสเป็นจริงในอนาคต มีโครงสร้าง If Clause คือ

โครงสร้าง if clause type 1

  • If + present simple, will + v. base form
    • ซึ่งก็คือ If + subject + v.1, subject + will + v. ที่ไม่ผัน

NOTE! กรณีนี้สามารถใช้ shall, should, would, can, could, may, might แทน will ได้

ในประโยคเงื่อนไขรูปแบบนี้ เราสามารถใช้ should (Modal Verb) แทน if ได้ ซึ่งมักใช้ในภาษาเขียนที่มีความสุภาพ

ตัวอย่างประโยค if clause type 1

  • If it rains, I will stay home. (ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน)
  • If she studies hard, she will pass the exam. (ถ้าเธอเรียนหนัก เธอก็จะสอบผ่าน)
  • If it snows tomorrow, we will build a snowman. (ถ้าพรุ่งนี้หิมะตก เราจะปั้นมนุษย์หิมะ)
  • If you hurry, you will catch the bus. (ถ้าคุณรีบ คุณก็ขึ้นรถเมล์ทัน)
  • If they don’t hurry, they will miss the train. (ถ้าพวกเขาไม่รีบ พวกเขาก็จะตกรถไฟ)

Second Condition หรือ If Clause type 2

ประโยค If Clause type 2 หรือ ประโยคเงื่อนไขแบบ Past Unreal Conditional คือ If Clause ที่ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบันและเป็นไปไม่ได้ในอนาคต หรือ พูดถึงเรื่องเพ้อฝัน มีโครงสร้าง If Clause คือ

โครงสร้าง if clause type 2

  • If + past simple, would + v. base form
    • ซึ่งก็คือ If + subject + v.2, S + would + v. ที่ไม่ผัน

NOTE! กรณีนี้สามารถใช้ could, should, might แทน would ได้

การสลับประโยค If-Clause Type 2

โดยปกตินิยมใช้ If + v.2, would + v. infinitive แต่ก็สามารถสลับโครงสร้างได้

ตัวอย่างประโยค if clause type 2

  • If I won the lottery, I would buy a house. (ถ้าฉันถูกลอตเตอรี่ ฉันจะซื้อบ้าน)
  • If I had more money, I would travel around the world. (ถ้าฉันมีเงินมากกว่านี้ ฉันจะไปเที่ยวรอบโลก)
  • If she were taller, she would play basketball professionally. (ถ้าหล่อนสูงกว่านี้ หล่อนจะเล่นบาสเก็ตบอลได้อย่างมืออาชีพ)

Third Condition หรือ If Clause type 3

ประโยค If Clause type 3 หรือ ประโยคเงื่อนไขแบบ Past Unreal Conditional คือ If Clause ที่ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่เป็นจริงในอดีต ส่วนใหญ่จะใช้ในเชิงเสียดายหรือ รำพึงรำพันถึงเหตุการณ์ในอดีตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว มีโครงสร้าง If Clause คือ

โครงสร้าง if clause type 3

  • If + past perfect, would have + past participle
    • ซึ่งก็คือ If + subject + had + v.3, subject + would have + V.3

NOTE! กรณีนี้สามารถใช้ could, should, might แทน would ได้

ตัวอย่างประโยค if clause type 3

  • If I had studied harder, I would have passed the exam. (ถ้าฉันเรียนหนักกว่านั้น ฉันคงสอบผ่านไปแล้ว)
  • If they had left earlier, they wouldn’t have missed the flight. (หากพวกเขาออกเดินทางเร็วกว่านี้ พวกเขาคงไม่พลาดเที่ยวบิน)
  • If she had known, she wouldn’t have said anything. (ถ้าหล่อนรู้ หล่อนคงไม่พูดอะไรเลย)
  • If we had taken the other route, we wouldn’t have gotten lost. (ถ้าเราใช้เส้นทางอื่น เราคงไม่หลงทาง)
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
tense
คำคมภาษาอังกฤษ

แชร์ไว้อ่าน