Thank you กับ Thanks ต่างกันอย่างไร วิธีสังเกต โครงสร้าง ตัวอย่างประโยค
Thank you และ Thanks
ในภาษาอังกฤษ คำว่า thank you กับ thanks ต่างกันอย่างไร วิธีสังเกตว่าใช้อย่างไร
เราใช้คำว่า thank you และ thanks เพื่อแสดงความขอบคุณ โดยการใช้และความหมายทั้งสองคำนี้ แตกต่างกันเล็กน้อย คือ
* Thank you เป็นทางการมากกว่า อาจหมายถึง ขอบคุณ
* Thanks เป็นทางการน้อยกว่า อาจหมายถึง ขอบใจ
** ข้อควรระวัง ทั้งสองคำด้านบน ทำหน้าที่เป็นคำนาม (noun) Thanks คำเดียว มี S เสมอ (อ่านคำอธิบายเพิ่มเติมด้านล่าง) และมักใช้กับผู้ที่คุ้นเคย สนิทสนม อายุน้อยกว่า หรือวุฒิภาวะน้อยกว่า นะครับ (โดยเฉพาะสำหรับมารยาทไทย เหมือนกับว่า เราจะพูดขอบใจกับเพื่อนหรือเด็กๆ แต่ถ้าผู้ใหญ่กว่าเรา หรือพูดแบบทางการ เราจะใช้คำว่า ขอบคุณ นั่นเองครับ)
และคำว่า thank you ที่เป็นคำนาม ผู้เรียนอาจพบเจอการเขียนโดยมี – เชื่อมคำให้ติดกัน เช่น
* I just want to say a big thank-you to everyone who supported us.
มาดูข้อแตกต่างในการใช้แบบละเอียดขึ้นอีกสักหน่อยครับ
ถ้าอยากจะบอกว่า ขอบคุณมาก ก็เติมคำอื่นเพิ่มไปได้ครับ เช่น
– Thank you very much.
– Thanks very much.
– Thanks a lot.
* แต่ไม่พูด Thank you a lot.
และถ้าใช้คำว่า many ก็สามารถใช้กับ thanks ดังตัวอย่างนี้ครับ
– Many thanks for your lovely long letter which arrived in this morning’s post.
ลองมาดูมารยาทกับการขอบคุณกันครับ
* เมื่อมีคนถามไถ่ เราก็ขอบคุณ
A: How are you today?
B: I’m fine, thank you.
* เมื่อมีคนชม เราก็ขอบคุณ
A: Your hair looks good.
B: Thanks very much.
* เมื่อตอบรับ เราก็ขอบคุณ
A: Would you like a biscuit?
B: Yes, please. Thanks.
* เมื่อตอบปฏิเสธ เราก็ขอบคุณ
A: Would you like a biscuit?
B: No, thanks.
** ข้อควรระวัง
ถ้าหากมีผู้เสนออะไรให้เรา แล้วเราไม่ตอบว่า Yes หรือ No ก่อน แต่ตอบเพียงว่า ขอบคุณ จะหมายถึง เราบอกเขาว่า Yes!
A: Would you like some more soup?
แปลว่า คุณอยากได้ซุปเพิ่มไหม
B: Thank you.
แปลว่า [ตกลง] ขอบคุณ [เหมือนตอบ yes ในตัว]
** โครงสร้างประโยคที่ควรรู้
เราใช้ Thank you (หรือ thanks) for + v.ing เช่น
– Thank you for helping us.
– Thanks for sending a card.
หรือจะเป็น
– I would like to express my thanks for your kindness.
ในประโยคภาษาอังกฤษ เราใช้คำว่า thank you ในรูปแบบคำนาม และมักใช้คู่กับคำว่า big เช่น
– A big thank you to all those who helped with the sale.
หรืออาจเจอการเขียนแบบมี – ตรงกลาง เช่น
I just want to say a big thank-you to everyone who supported us.
** คำว่า thank [*ไม่มี S] เราใช้เป็นคำกริยา (verb) ต้องมีกรรม (object) รองรับ และมักตามด้วย
… for + คำนาม (noun) หรือ
… for + กริยาเติม ing (v.ing) เช่น
– I thank you for your advice. [ค่อนข้างทางการ] *ไม่ใช่ thanks นะครับ หากยังสับสน ลองกลับขึ้นไปอ่านใหม่ตั้งแต่แรกนะครับ
– We would like to thank everyone for their generosity.
– I’d like to thank you for coming here tonight.
และอย่างเช่น การอุทานว่า ขอบคุณพระเจ้า! เราก็ใช้ Thank แบบที่ไม่มี s นะครับ เพราะเป็นกริยาขอบคุณ [ถ้ามี S จะกลายเป็นคำนามนะครับ]
– Thank God you’re home! I was so worried that you’d had an accident.
เราไม่พูดหรือเขียนว่า Thanks God you’re home.
หรืออีกตัวอย่าง เช่น
– Thank God you found the key.
ตัวอย่าง thank ที่เป็นคำกริยา (verb) เพิ่มเติม
– He thanked me for taking him home.
แปลว่า เขาขอบคุณฉันที่พากลับบ้าน (รูปอดีต -ed)
** ลองฝึกสังเกต อีกสักหน่อย
– On behalf of the entire company, I would like to thank you for all your work.
ประโยคด้านบนนี้ thank เป็นคำกริยา ที่ทำการขอบคุณ you โดยดูจากประธาน I แล้วตามด้วย would like to … สิ่งที่ต่อท้ายก็คือคำกริยาครับ เลยเป็น thank แล้วทำการขอบคุณใคร ก็ใส่ตามเลย ในที่นี้คือ you
** ไม่ใช่คำนามว่า thank you นะครับ
ลองเปลี่ยน you เป็นคำอื่นดูนะครับ จะได้เห็นชัดเจนขึ้น
– I’d like to thank everyone for coming this evening.
แปลว่า ฉันอยากจะขอบคุณทุกคนที่มาในเย็นนี้
แล้วมาดูตัวอย่างคำว่า “thank you” ที่มาด้วยกัน ที่เป็นคำนาม(หรือเปล่งอุทาน)ครับ เช่น
– It’s been a wonderful day – thank you.
แปลว่า มันเป็นวันที่ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณนะ
– I bought her some flowers to say thank you.
แปลว่า ฉันซื้อดอกไม้ให้หล่อนเพื่อเป็นการ(พูด)ขอบคุณ[* สังเกตว่า to + กริยา ซึ่งในที่นี้คือ say เราก็จึงต่อด้วย “thank you” ที่เป็นคำนาม]
สรุปสิ่งที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษควรสังเกต
* thank เป็นกริยา ต้องมีกรรมรองรับ ว่าขอบคุณใคร
* thank you เป็นคำนาม
* thanks เป็นคำนาม [ไม่เป็นทางการ ของ thank you]