หลักการใช้ Present Simple เข้าใจง่าย ตัวอย่างประโยคเพียบ

หลักการใช้ Present Simple

คู่มือฉบับสมบูรณ์

Present Simple Tense หรือ กาลปัจจุบันเรียบง่าย ถือเป็นกาลที่สำคัญที่สุดกาลหนึ่งในภาษาอังกฤษ ใช้เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์หรือความจริงที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เน้นย้ำถึงนิสัยหรือกิจวัตรประจำวัน และอธิบายถึงข้อมูลทั่วไป บทความนี้จะมาอธิบายหลักการใช้ Present Simple อย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างประโยคและคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องครับ หากต้องการอ่านเรื่อง Tense ทั้งหมด สามารถอ่านได้ที่ : Tense ทั้ง 12 tenses ในภาษาอังกฤษมีอะไรบ้าง โครงสร้าง การใช้ และตัวอย่างประโยค

โครงสร้างประโยค Present Simple

ประโยค Present Simple นั้นมีโครงสร้างที่เรียบง่าย ประกอบไปด้วย

ประธาน: บ่งบอกถึงผู้กระทำ
กริยา: แสดงถึงการกระทำ
กรรม: บ่งบอกถึงเป้าหมายของการกระทำ (ไม่จำเป็น)

การเปลี่ยนแปลงกริยา

กริยาเอกพจน์: กริยาเอกพจน์จะเติม -s หรือ -es ลงท้าย ยกเว้นกริยาบางประเภทที่มีการเปลี่ยนแปลงรูป
กริยาบุคคลที่สามเอกพจน์: กริยาบุคคลที่สามเอกพจน์จะเติม -s หรือ -es ลงท้าย ยกเว้นกริยาบางประเภทที่มีการเปลี่ยนแปลงรูป

ตัวอย่างประโยค Present Simple

I go to school every day. (ฉันไปโรงเรียนทุกวัน)
She likes to read books. (เธอชอบอ่านหนังสือ)
The train arrives at 9:00 a.m. (รถไฟมาถึงตอน 9:00 น.)
Birds fly in the sky. (นกบินบนท้องฟ้า)
Do you speak English? (คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม?)

คำศัพท์บ่งบอกเวลาที่ใช้กับ Present Simple

ทุกวัน: every day
ทุกสัปดาห์: every week
ทุกเดือน: every month
ทุกปี: every year
บ่อยๆ: often
บางครั้ง: sometimes
ไม่ค่อย: rarely
ไม่เคย: never
ตอนนี้: now
ในตอนนี้: at the moment
โดยทั่วไป: usually
โดยปกติ: normally

การใช้ Present Simple

อธิบายถึงนิสัยหรือกิจวัตรประจำวัน:
- I wake up at 6:00 a.m. every day. (ฉันตื่นนอนตอน 6:00 น. ทุกวัน)
- She brushes her teeth twice a day. (เธอแปรงฟันสองครั้งต่อวัน)
- We go to the park on weekends. (เราไปสวนสาธารณะในวันหยุดสุดสัปดาห์)
บอกเล่าเหตุการณ์หรือความจริงที่เกิดขึ้นเป็นประจำ:
- The sun rises in the east and sets in the west. (ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก)
- Water boils at 100 degrees Celsius. (น้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส)
- Dogs bark and cats meow. (สุนัขเห่าและแมวร้องเหมียว)
อธิบายถึงข้อมูลทั่วไป:
- France is located in Europe. (ฝรั่งเศสตั้งอยู่ในยุโรป)
- The capital of Thailand is Bangkok. (กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย)
- The Earth revolves around the sun. (โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์)

ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense

นิสัยและกิจวัตรประจำวัน

I wake up at 7:00 a.m. every morning. (ฉันตื่นนอนตอน 7:00 น. ทุกเช้า)
She drinks coffee for breakfast. (เธอทานกาแฟเป็นอาหารเช้า)
We take the bus to school. (พวกเราขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียน)
They play soccer after school. (พวกเขาเล่นฟุตบอลหลังเลิกเรียน)
You go to bed early on weekdays. (คุณเข้านอนเร็วในวันธรรมดา)

ข้อเท็จจริงทั่วไป

The Earth is round. (โลกกลม)
The sun rises in the east. (พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก)
Water boils at 100 degrees Celsius. (น้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส)
Diamonds are very hard. (เพชรแข็งมาก)
Bangkok is the capital of Thailand. (กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย)

ความสามารถ

I can speak English. (ฉันพูดภาษาอังกฤษได้)
She can play the piano. (เธอเล่นเปียโนได้)
We can see the stars at night. (เราเห็นดาวได้ในเวลากลางคืน)
They can run very fast. (พวกเขาวิ่งได้เร็วมาก)
You can swim well. (คุณว่ายน้ำเก่ง)

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ

The train arrives at 8:00 a.m. (รถไฟมาถึงตอน 8:00 น.)
It rains a lot in this country. (ประเทศนี้ฝนตกชุก)
She visits her grandparents every weekend. (เธอไปเยี่ยมปู่ย่าตายายทุกสุดสัปดาห์)
We have a meeting every Monday. (เรามีประชุมทุกวันจันทร์)
They go on vacation once a year. (พวกเขาไปพักร้อนปีละครั้ง)

ความชอบ

I love chocolate. (ฉันชอบช็อกโกแลต)
She hates vegetables. (เธอเกลียดผัก)
We enjoy listening to music. (เราชอบฟังเพลง)
They don’t like watching TV. (พวกเขาไม่ชอบดูทีวี)
You prefer reading books. (คุณชอบอ่านหนังสือมากกว่า)

สุภาษิตและคำพังเพย

Birds of a feather flock together. (สัตว์จำพวกเดียวกันอยู่รวมกัน)
Honesty is the best policy. (ความซื่อสัตย์เป็นนโยบายที่ดีที่สุด)
Practice makes perfect. (ฝึกฝนทำให้เก่ง)
Time flies when you’re having fun. (เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็ว)
Laughter is the best medicine. (เสียงหัวเราะคือยาวิเศษ)

ตารางประจำวัน

The bank opens at 9:00 a.m. (ธนาคารเปิดทำการเวลา 9:00 น.)
The library closes at 5:00 p.m. (ห้องสมุดปิดทำการเวลา 5:00 น.)
The bus runs every hour. (รถเมล์วิ่งทุกชั่วโมง)
The class starts at 8:30 a.m. (ชั้นเรียนเริ่มเวลา 8:30 น.)
The shop doesn’t open on Sundays. (ร้านค้าไม่เปิดวันอาทิตย์)

สรุปการใช้ Present Simple Tense

Present Simple Tense เป็นกาลที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ เข้าใจโครงสร้างประโยค การเปลี่ยนแปลงกริยา และคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง ฝึกฝนการใช้ Present Simple อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่วครับ